หลักการใช้ Present Simple Tense
ตัวอย่าง
Grandma
calls her buddies every day.
ความหมาย
คุณย่า/คุณยายโทรหาเพื่อน ๆ ทุกวัน
การใช้
Present simple tense ใช้พูดถึงกาลปัจจุบัน สภาพที่เป็นอยู่ปัจจุบัน (general truth) และการกระทำที่เราปฏิบัติเป็นประจำ หรือเป็นกิจวัตร (routine or habit) หรือสิ่งที่เป็นความจริง (fact)
หลักการใช้ Past Simple Tense
ตัวอย่าง
I
bought a phone
last week.
ความหมาย
ฉันซื้อมือถือมาหนึ่งเครื่องเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
การใช้
Past simple tense ใช้กับการกระทำที่ผ่านไปแล้ว
(มักจะมีคำแสดงอดีตกาล เช่น "yesterday" หรือ "five minutes ago" อยู่เสมอ)
หลักการใช้ Future Simple Tense
ตัวอย่าง
I
will watch a movie tomorrow night.
(will = มั่นใจว่าจะ)
ตัวอย่าง
I
am going to watch a movie tomorrow night.
(going to = ตั้งใจว่าจะ)
ความหมาย
ฉัน(จะ)ดูหนังสักเรื่องคืนพรุ่งนี้
การใช้
Future simple tense ใช้กับการกระทำที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
(มักจะมีคำแสดงอนาคตอยู่ด้วย เช่น "tomorrow", "in a few minutes" หรือ "next week")
หลักการใช้ Present Continuous Tense
ตัวอย่าง
Freddy
is watching a movie.
ความหมาย
Freddy กำลังดูหนังอยู่
การใช้
ใช้ present continuous เมื่อการกระทำนั้นกำลังดำเนินอยู่
ตัวอย่าง
We
are coming back home tonight.
ความหมาย
พวกเราจะกลับมาที่บ้านคืนนี้
การใช้
ใช้ present continuous แสดงเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
หลักการใช้ Past Continuous Tense
ตัวอย่าง
Somebody
farted when I
was doing my exam.
ความหมาย
มีคนบางคนผายลม ขณะที่ฉันกำลังสอบ
การใช้
ใช้ past continuous ตอนมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อน ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์เกิดซ้อนขึ้นมาในเวลาสั้น ๆ
ตัวอย่าง
I
was eating a custard apple
at one in the afternoon.
ความหมาย
ฉันกำลังกินน้อยหน่าอยู่ ตอนบ่ายโมง
การใช้
ใช้ past continuous กับเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างชัดเจน ณ เวลาหนึ่งในอดีต
หลักการใช้ Future Continuous Tense
ตัวอย่าง
When you
call, I
will be sleeping.
ความหมาย
ตอนคุณโทรมา ฉัน (คง) จะกำลังหลับอยู่
การใช้
Future continuous ใช้ก้บเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่าง
They
will be playing cards
tonight.
ความหมาย
พวกเขา (คง) จะกำลังเล่นไพ่คืนนี้
การใช้
Future continuous ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ตามเวลาที่ระบุไว้
หลักการใช้ Present Perfect Tense
ตัวอย่าง
I
have added 8 new friends on Facebook.
ความหมาย
ผมaddเพื่อนใหม่ในFacebookไป 8 คน
ตัวอย่าง
I
haven't finished my work yet.
ความหมาย
ผมยังทำงานไม่เสร็จ
การใช้
ใช้ present perfect ตอนพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วดำเนินเรื่อยมาจนจบในปัจจุบัน เมื่อพูดจบ
หลักการใช้ Past Perfect Tense
ตัวอย่าง
I
had cleaned my room before my friends
arrived.
ความหมาย
ผมได้ทำความสะอาดห้อง ก่อนเพื่อนฝูงมาถึง
การใช้
ใช้ past perfect เมื่อมีเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ในอดีตเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นก่อนและจบลง อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นทีหลัง แต่ทั้งสองเหตุการณ์ได้จบสิ้นไปแล้ว (เหตุการณ์แรก ใช้ past perfect tense ส่วนเหตุการณ์ที่สอง ใช้ past simple tense)
ตัวอย่าง
I
had never
watched Harry Potter
until yesterday.
ความหมาย
ผมไม่เคยดู Harry Potter จนกระทั่งเมื่อวาน
การใช้
Past perfect ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต
หลักการใช้ Future Perfect Tense
ตัวอย่าง
The skytrain
will have left before you
get to the platform.
ความหมาย
เมื่อคุณไปถึงชานชาลา รถไฟฟ้าคงจะออกไปแล้ว
การใช้
ใช้ future perfect tense เมื่อต้องการจะบอกว่า เหตุการณ์หนึ่งได้จบสิ้นลง เมื่อถึงเวลาหนึ่งในอนาคต
หลักการใช้ Present Perfect Continuous Tense
ตัวอย่าง
The kids
have been playing for a long time.
ความหมาย
เด็ก ๆ เล่นมานานมากแล้ว (มีทีท่าว่าจะเล่นต่อ)
การใช้
ใช้ present perfect continuous เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่จบ เพราะยังคงต่อเนื่องไปถึงอนาคต
หลักการใช้ Past Perfect Continuous Tense
ตัวอย่าง
Before I went to sleep, I
had been swimming for an hour.
ความหมาย
ฉันว่ายน้ำมาหนึ่งชั่วโมง ก่อนฉันไปนอน
การใช้
Past perfect continuous ใช้ได้ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ในอดีต 2 เหตุการณ์ ขณะที่เหตุการณ์หนึ่งกำลังดำเนินอยู่ ก็มีอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น
หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense
ตัวอย่าง
By next year I
will have been teaching English for 5 years.
ความหมาย
เมื่อถึงปีหน้า ผมก็จะสอน (ติดต่อกันมา) ครบ 5 ปี (และผมก็จะสอนต่อไปอีก)
การใช้
ใช้เมื่อต้องการจะบอกว่า ณ เวลาหนึ่งในอนาคต เหตุการณ์หนึ่งซึ่งดำเนินมาก่อนนั้นยังคงดำเนินอยู่ และจะดำเนินต่อใปอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น